วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm (เดอะ ซีนเนอรี่ รีสอร์ท แอนด์ฟาร์ม) สวนผึ้ง ราชบุรี










        The Scenery Resort เป็นรีสอร์ทในหุบเขา ติดลำน้ำภาชี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อนโดยเน้นความสงบ สบายและใกล้ชิดธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ จำนวนบ้านพักที่เปิดให้บริการได้ทั้งหมดมี 7 หลัง คือ บ้านรูซี่ , บ้านแพงโกล่า , บ้านฮามาต้า , บ้านเมอริโน , บ้านคอร์ริเดล , บ้านคาทาดิน และบ้านบาร์บาโดส ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้รวม 24 ท่าน
 
        ทุ่งหญ้าบนเนินเขา ปกคลุมด้วยอากาศเย็นสบาย มีเดอะซีนเนอร์รี่รีสอร์ท (The Scenery Resort) ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ ดินแดนแห่งภูเขา ทุ่งหญ้า ฝูงแกะและลำธารใส บรรยากาศธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน ทุ่งหญ้าเขียวสบายตา จุดเด่นของที่นี่คือ ฝูงแกะที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และที่สำคัญ ห้องพักสไตล์เมอร์ดิเตอเรเนียนที่ชวนน่าพักผ่อน คือเสน่ห์ของ The Scenery Resort ที่หาได้ยากในรีสอร์ทอื่น

        ถึงแม้เดอะซีนเนอร์รี่รีสอร์ท (The Scenery Resort) จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่การบริการที่ดีเยี่ยม ไม่ต่างจากรีสอร์ทหรูตามเมืองใหญ่ๆ ส่วนของห้องพักจะเป็นโซนส่วนตัว ทำให้บรรยากาศด้านใน เงียบสงบ การจัดสวนและต้นไม้ก็น่ารัก เก้าอี้นั่งสีแดงตัดกับสนามหญ้าสีเขียวๆ มีอยู่หลายๆ จุดในรีสอร์ท คงเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรีสอร์ทที่ใครไปใครมาต้องมาถ่ายภาพที่เก้าอี้เหล่านี้

การเดินทาง The Scenery Resort:
        จากตัวเมืองราชบุรี ให้ตรงไปอำเภอสวนผึ้ง ผ่านที่ว่าการอำเภอและโรงพยาบาลสวนผึ้งประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เส้นทางไปทางธารน้ำร้อนบ่อคลึงโดยเลยภูผาผึ้งรีสอร์ทไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะเห็นเดอะซีนเนอร์รี่รีสอร์ทอยู่ด้านซ้ายมือ

สืบค้นจาก : http://www.tinyzone.tv/TravelDetail.aspx?ctpostid=439

ตลาดน้ำสี่ภาค

 ตลาดน้ำสี่ภาค

         ตลาดน้ำสี่ภาค ตั้งอยู่เลยพัทยาใต้ไปทางสัตหีบเพียงไม่ถึง 10 กิโลเมตร ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 23 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ากกขนาดใหญ่ ต่อมามีการรื้อป่ากกออกเพื่อปรับปรุงพื้นที่ จึงรู้ว่าภายใต้ป่ากกที่รกรุงรังยังมีบึงธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่ เลยเกิดไอเดียบรรเจิดเนรมิตรบึงแห่งนี้ให้กลายมาเป็น "ตลาดน้ำ" ให้ผู้คนได้สัมผัสความเป็นไทย ๆ จึงจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ 

          อีกทั้งยังเล็งเห็นว่าควรจะนำเอาของดีของเด่นทั้ง 4 ภาค มารวมไว้ด้วยกัน จึงกลายมาเป็น"ตลาดน้ำสี่ภาค" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และสินค้าต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาคของไทยเอามารวมไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว 



        ถ้าเดินไปอีกหน่อยก็จะเจอ พิพิธภัณฑ์หนึ่งสยาม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานฝีมือหัตถกรรม ไม้สักทองแกะสลักไว้มากมาย หรือจะไปย้อนรำลึกและเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของทั้ง 4 ภาค ไม่ว่าจะเป็น การทำนาปลูกข้าว, การทอผ้าไหม, การทำขนมไทยโบราณ ที่แปลงเกษตรสาธิตและสมุนไพรไทย ก็สามารถทำได้

        ขณะเดียวกัน ถ้าเหน็ดเหนื่อยก็หาซื้อของกินเล่นมารอนั่งชมการแสดงต่าง ๆ ของแต่ละภาค รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและร่วมสนุกได้ตลอดทั้งวัน หรืออยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นนั่งเรือชม "ตลาดน้ำสี่ภาค" บ้างก็สามารถทำได้ เพราะมีเรือพายไว้บริการ จะพายเองหรือให้เจ้าหน้าที่คอยพายให้ก็ตามสะดวก ราคาเพียงแค่ลำละ 200 บาทต่อ 1 ลำ นั่งได้ 3-4 ท่าน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

        ทั้งนี้ ตลาดน้ำสี่ภาค จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 24.00 น. แต่สำหรับวันเสาร์ - อาทิตย์ จะมีการแสดงของแต่ละภาควนไปตามซุ้มต่าง ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวรับชม



สืบค้นจาก : http://travel.kapook.com/view8292.html


ตลาดน้ำศิลปะกลางดง

ตลาดน้ำศิลปะกลางดง 
ตลาดอารมณ์ศิลปินของคนมีศิลป์ในหัวใจ

        ตลาดน้ำที่ออกตัวว่าเล็กที่สุดโลก แต่ถึงจะเล็ก ก็แฝงด้วยความพิเศษที่ต้องถูกอกถูกใจคนรักศิลปะเป็นแน่ เพราะตลาดน้ำแห่งนี้รวบรวมเอาร้านค้าและกิจกรรมด้านศิลปะเอาไว้ทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็น Art gallery สตูดิโอวาดภาพ ร้านของตกแต่งบ้านดีไซน์น่ารัก หรือของที่ระลึกสวยๆ ก็มีให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน


        ถ้าท้องร้องเพราะหิวหรืออยากนั่งชิลในร้านบรรยากาศดี ที่นี่ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ไว้ให้บริการ เช่น Lekker Gril Restaurant ที่เสิร์ฟเมนูสเต็กนุ่มชุ่มลิ้นพร้อมไส้กรอกโฮมเมด Coffee Bean by Kaldi กับเมนูกาแฟหอมกรุ่นกลมกล่อม เป็นต้น


        หลังจาก"ตลาดน้ำศิลปะกลางดง" ประสบความสำเร็จครองใจใครหลายคนมานาน ผู้ก่อตั้งจึงเปิด "สวนซ่อนศิลป์" ที่ซุกซ่อนความงดงามของศิลปะไว้ทุกอณูไว้ให้ได้ชมเพิ่ม โดยจัดแสดงสวนจากทั่วโลก ถึง 5 แบบ ได้แก่ สวนโมเสก สวนหินล้านปี สวนอังกฤษ สวนญี่ปุ่น และสวนป่าฝน แถมยังมีมุมสวยๆ ไว้ให้ถ่ายรูปกันเพียบ



        ไม่ว่าจะเป็น "บ้านนักเขียน" ให้คุณท่องไปในโลกเปี่ยมมนต์เสน่ห์ของตัวอักษร "ดินแดนคนจิ๋ว" รูปปั้นคนจิ๋วหลากหลายอิริยาบถ พร้อมของใช้ต่างๆ หรือจะเป็นเรือกอนโดล่าประดับดอกไม้ที่จอดอยู่ริมน้ำก็ให้บรรยากาศของเมืองสุดโรแมนติกอย่างเวนิสได้เป็นอย่างดี


สืบค้นจาก : http://travel.sanook.com/