วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กุหลาบสีขาว ภูหินร่องกล้า

กุหลาบสีขาว


อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับแห่งที่ 48 ของประเทศ และนับเป็นแห่งที่ 14 ของภาคเหนือ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 307 ตารางกิโลเมตร หรือ 102,000 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์, อำเภอด่านซ้ายจังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อาทิ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์


ในอดีตเคยเป็นฐานที่มั่นของลัทธิคอมมิวนิสต์ไทย ที่เคยต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล ยังคงหลงเหลือร่องรอยเรื่องราวในอดีตไว้ให้เห็นกัน นั่นก็คือ โรงเรียนการเมืองการทหาร และสำนักอำนาจรัฐ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามหลากหลาย ทั้งลานหินแตก ลานหินปุ่ม ผาชูธง และน้ำตกอันสวยงามหลายแห่ง มีเทือกเขาที่สลับซับซ้อน โดยมี ภูหมันขาว เป็นยอดเขาสูงที่สุด มีความสูงประมาณ 1,820 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงทำให้ ภูหินร่องกล้า แห่งนี้มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี


ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาว ชมวิวทิวทัศน์ และพืชพรรณดอกไม้เมืองหนาวกันเป็นจำนวนมาก สำหรับในช่วงฤดูร้อนของทุกปีนั้น อุทยานภูหินร่องกล้า แห่งนี้ยังคงมีความน่าสนใจแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวเที่ยวอื่นๆ นั่นก็คือจะมีต้น กุหลาบสีขาว ออกดอกสีขาวบานสะพรั่งอวดความสวยงาม ไปทั่วบริเวณลานหินปุ่ม และลานหินแตก บานอวดโฉมให้กับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะแก่การมาเที่ยวชม ถ่ายภาพ และศึกษาธรรมชาติ


กุหลาบสีขาว  เป็นพรรณไม้ในวงศ์ ERICACEAE เช่นเดียวกับกุหลาบพันปี มีชื่อท้องถิ่นว่า ดอกสามี หรือไม ลักษณะต้นเป็นพุ่ม สูงประมาณ 1-3 เมตร มักพบขึ้นอยู่บนภูสูงในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะในพื้นที่โล่งที่เป็นลานหิน ออกดอกระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ดอกมีลักษณะเป็นช่ออยู่ตามปลายกิ่ง ช่อละ 3-5 ดอก ดอกจะมีลักษณะเป็นสีขาว สีขาวอมชมพู และจะมีสีเหลืองแต้มตามโคนดอก กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยหรือระฆัง ส่วนใหญ่พบตามภูเขาที่มีระดับความสูง 1,000-1,600 เมตร เมื่อบานเต็มที่จะมองดูเป็นสีขาวสะพรั่งไปทั้งต้น กระจายตามที่โล่งแจ้งที่มีพื้นเป็นหินทราย   ต้นกุหลาบขาวมีความสูงอยู่ในระดับสายตาของเรา กุหลาบขาวชนิดนี้ยังพบเห็นได้ที่ ดอยเชียงดาว ภูกระดึง  และภูหลวง

สืบค้นจาก : http://travel.mthai.com/blog/51471.html




Cat Cafe คาเฟ่ของคนรักแมวเหมียว

Cat Cafe คาเฟ่ของคนรักแมวเหมียว


               เมื่อพูดถึง "แมว" หลายคนก็คนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยความขี้อ้อน ท่าทางที่น่ารักของมัน ทำให้กลายเป็นที่รักของใครหลายคน และสำหรับร้านที่เปิดให้เจ้าแมวเข้าไปมีส่วนร่วมบนโต๊ะอาหาร หรือนั่งร่วมโต๊ะก็คงมีไม่มาก


Cataholic café


ข้อปฏิบัติและข้อแนะนำของร้าน

1. ล้างมือทุกครั้งที่เข้ามาเล่นกับแมวในร้าน
2. ไม่กวนแมว เวลารับประทานอาหาร หรือนอนพักผ่อน
3. เล่นกับแมวเบา ๆ ถ้าแมวเดินมาใกล้ สามารถอุ้มมาไว้ที่ตักได้ (ถ้าไม่ทราบวิธีอุ้มที่ถูกต้องสามารถเรียกเจ้าหน้าที่ในร้านมาแนะนำได้)
4. ไม่ควรอุ้มแมวจากที่อื่นมาไว้ที่โต๊ะของตัวเอง เพราะแมวรักอิสระ
5.ไม่ควรทำเสียงดังให้แมวตกใจ
6. อย่าให้อาหารหรือของกินใด ๆ กับแมว เพราะอาหารบางอย่างจะส่งผลเสียต่อร่างกายแมว เช่น ช็อกโกแลต

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 12.00-21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-21.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ที่อยู่ : Ozono ชั้น 2 เลขที่ 307 ถนนสุขุมวิท 39 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพฯ


Purr Cat Cafe Club


               คาเฟ่แมวของดาราสาวฝาแฝด เพชร รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล ที่ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อน ๆ เปิดคาเฟ่สำหรับคนรักแมวแห่งนี้ขึ้น บริเวณหน้าร้าน ตกแต่งด้วยสวนเล็ก ๆ ในบรรยากาศที่ร่มรื่น ส่วนในร้านตกแต่งด้วยโทนสีทึบอย่างสีน้ำตาลเข้มและสีดำ ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ โซนที่ 1 ที่จะมีโต๊ะสำหรับนั่งทานขนมและเครื่องดื่ม เพื่อรอคิวเข้าไปเล่นกับน้องเหมียว, โซนที่ 2 คือเคาน์เตอร์ซาลอนของแมว ซึ่งซานลอนของที่นี่สามารถพาแมวมาอาบน้ำ ตัดขน หรือพาแมวที่บ้านมาเล่นได้เช่นกัน โซนที่ 3 คือโซนคาเฟ่ชั้นนอก ที่คุณสามารถพาแมวมาเที่ยวได้ แต่จะอยู่ได้แค่บริเวณโซนนี้เท่านั้น และส่วนโซนที่ 4 คือโซนน้องแมวอาศัยอยู่จริง ๆ โดยกั้นจากห้องที่ 3 ด้วยกระจก สามารถมองเห็นพฤติกรรมของแมวได้เป็นอย่างดี และภายในโซนที่ 4 จะมีเครื่องเล่นต่าง ๆ สำหรับแมวได้ซุกตัวอยู่ทุกที่ รองรับคนได้ไม่เกิน 20 คน สามารถลูบหรือใช้อุปกรณ์เล่นกับน้องแมวได้ แต่ไม่อนุญาตให้อุ้มแมว เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้ที่เข้าไปเล่นได้ โดยเมนูของร้านที่มีให้เลือก เช่น สลัด, เค้ก, ชา และกาแฟ ฯลฯ และบางวันจะมีเมนูพิเศษอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีแมวให้เล่นแล้ว ทางร้านยังมีของที่ระลึก เสื้อผ้าสำหรับแมวไว้จำหน่ายอีกด้วย

ข้อปฏิบัติและข้อแนะนำของร้าน

1. ทำความสะอาดมือทุกครั้งที่เข้ามาในคาเฟ่
2. คำนึงถึงความสบายใจของแมวเป็นหลัก ไม่บังคับแมวให้มาเล่นกับตัวเอง
3. ไม่ใช้ความรุนแรงกับแมว เช่น หยิบหลังแมว ดึงหาง หรือตี ฯลฯ
4. ห้ามใช้แฟลชเวลาถ่ายรูปทุกครั้ง
5. ห้ามปลุกแมว
6. ห้ามให้แมวรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ใช่อาหารสำหรับแมว
7. ดูแลเด็ก ๆ ให้ปฏิบัติตามกฎของทางร้านอย่างเคร่งครัด
8. ห้ามอุ้มแมว เพราะทางร้านไม่สามารถดูแลและกำหนดให้เฉพาะผู้ที่อุ้มแมวเป็นได้ และที่สำคัญอย่าให้แมวเลียมือเด็ดขาด

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์- พฤหัสบดี เวลา 11.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.
ที่อยู่ : สุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ



สืบค้นจาก : http://travel.kapook.com/view66695.html




Art in Paradise

Art in Paradise


               เชียงใหม่...นับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายให้ได้สัมผัสกัน ทั้งภูเขาเขียวขจี ดอกไม้สวย ๆ วัดวาอาราม วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน และสถานที่ที่รวมผลงานศิลปะที่งดงามอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่นอกเหนือจากนั้นเรายังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ ๆ แห่งใหม่ของเชียงใหม่มาแนะนำ นั่นก็คือ Art in Paradise : Illusion Art Museum จิตรกรรม 3 มิติ แห่งแรกในเชียงใหม่ 
               Art in Paradise : Illusion Art Museum จิตรกรรม 3 มิติ แห่งแรกในเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากมาย และเริ่มเปิดประตูให้ทุกท่านได้สัมผัสกับภาพจิตรกรรมเสมือนจริงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 ซึ่งก่อตั้งโดย จาง คยู ซอก (Mr. Jang Kyu Suk) ชาวเกาหลีใต้ และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยจิตรกรชาวเกาหลีมืออาชีพ ที่มีผลงานชนะเลิศระดับประเทศกว่า 10 ท่าน และได้ร่วมกันเนรมิตพิพิธภัณฑ์แห่งจินตนาการ สร้างจิตรกรรมบนฝาผนังเสมือนจริง ที่ต้องใช้เทคนิคการวาดภาพให้สามารถลวงตาผู้ชมได้ ( Illustion Art) สามารถทำให้ผู้ชมสัมผัส และมีส่วนร่วมกับผลงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด (Interactive Art) ให้ความรู้สึกที่เหมือนจริง ประหนึ่งว่าผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของภาพจิตรกรรม (Realistic Art)
               Art in Paradise เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 โซน ได้แก่ โซน AQUA โลกใต้ทะเล ท่องดินแดนใต้สมุทร, โซน ZOO สวนสัตว์, โซน DINOSAUR สัตว์โลกล้านปี, โซน SURREALISM ศิลปะเหนือจริง, โซน CLASSIC ART ศิลปะยุคคลาสสิก ที่คุณก็เป็นศิลปินชื่อก้องโลกได้, โซน LANNA ลานนา เพลิน ๆ กับวัฒนธรรมล้ำค่า, โซน THAI ประเพณีไทย สนุกสนานไปกับการละเล่นของไทย และโซน EGYPTIAN อียิปต์โบราณ เปิดประตูสู่ดินแดนลี้ลับ อย่างไรก็ตาม แต่ละโซนก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ ใครชอบแบบไหนสไตล์ใดก็แวะไป ถ่ายรูปกันเพลิน ๆ ตามจินตนาการได้
                สำหรับ Art in Paradise เชียงใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 199/9 ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ห้างสรรพสินค้าสีสวนเก่า) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ส่วนบัตรเข้าชมนั้น ผู้ใหญ่ราคา 180 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร) ราคา 120 บาท (ปิดเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว 19.30 น. ) 
















Art in Paradise เชียงใหม่




แผนที่การเดินทางมาเยี่ยมชม Art in Paradise เชียงใหม่





สืบค้นจาก : http://travel.kapook.com/view66573.html

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หาดไวท์เฮเวน ประเทศออสเตรเลีย



                           หาดไวท์ฮาเว่น ชายหาดที่มีทรายขาวที่สุดในโลก

                หาดไวท์ฮาเว่น เป็นชายหาดที่มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร การเข้าถึงชายหาดสามารถเดินทางไปถึงโดยเรือเท่านั้นและไม่มีที่พักบนหาดแห่งนี้เลยสักแห่งเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวหาดแห่งนี้มีกฏข้อห้ามอยู่ว่าห้ามนำสุนัขเข้ามาในหาดและห้ามสูบบุหรี่บนชายหาด

สุดยอดชายหาดที่สวยที่สุดในโลก

               สำหรับหน้าร้อนนี้เป็นใครก็ต้องนึกถึงทะเล ความสวยงามของหาดทรายขาว ทะเลสวย ย่อมทำให้จิตใจสดชื่น แจ่มใสและผ่อนคลายจิตใจได้เป็นอย่างดี
               สำหรับชายหาดที่ถือว่าสวยที่สุดในโลกที่ได้มีการจัดอันดับขึ้นมานั้น อันดับที่ 1 ได้แก่ หาดไวท์เฮเวน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตั้งอยู่ ณ เกาะวิธซันเดย์  เป็นชายหาดที่ได้ชื่อว่ามีทรายขาวสะอาดสดใสที่สุดในโลกอยู่ที่นั่นด้วย และเป็นหนึ่งในทะเลที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากที่สุดอีกต่างหาก และสามารถเดินทางไปได้โดยทางเรือเท่านั้น ที่นั่นจะปราศจากที่พักบนเกาะและยังห้ามนำพาน้องสุนัขขึ้นไปบนเกาะ รวมไปถึง ห้ามนำบุหรี่เข้าไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่ตัดขาดจากความเจริญบนโลกภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีความวุ่นวาย แออัด การจราจรหรือปัญหาสภาวะแวดล้อมที่ยุ่งเหยิง และวุ่นวาย แต่ถึงคุณไปเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้แล้วเกิดอาการติดใจ คุณก็แอบตักทรายกลับไปบ้านด้วยไม่ได้ เพราะคุณจะต้องโทษและเจอกับค่าปรับสูงที่สุดตั้งแต่ 5 พันเหรียญคิดเป็นเงินไทย 1.4 แสนบาท











สืบค้นจาก   : http://www.indyarticle.com ,
: http://travel.kapook.com/view59475.html

สถานที่บอกรักสุดโรแมนติกของโลก

หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส



                    ด้วยความที่ “ปารีส” ได้รับการขนานนามว่าเป็นนครแห่งความรัก “หอไอเฟล” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส จึงได้ชื่อว่าเป็น “สถานที่มีมนต์ขลังในการบอกรัก” กันไปแบบเนียนๆ วันวาเลนไทน์ของทุกปีหอไอเฟลจะคราคร่ำไปด้วยคู่รัก หลายคนเชื่อว่าบรรยากาศยามค่ำคืนสวยงามจนเป็นใจให้หนุ่มๆ กล้าขอคนรักแต่งงาน รวมถึงนักแสดงระดับฮอลลีวู้ด อย่าง “ทอม ครูซ” ก็ถือโอกาสใช้สถานที่แห่งนี้คุกเข่าขอหมั้นคนรักมาแล้ว



ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ประเทศ ออสเตรเลีย
          ตราบใดที่มีรัก ย่อมมีหวัง แน่นอนว่า สะพานแห่งความหวัง อย่าง “ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์กลายเป็นสถานที่ให้ความหวังของคนที่ต้องการลั่นประตูวิวาห์ในเร็ววัน ด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมอันงดงาม อากาศสดชื่นพัดผ่าน ยามค่ำคืนแสงไฟสะท้อนผืนน้ำ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ “โอเปร่า เฮ้าส์” สถาปัตยกรรมที่เลื่องชื่อระดับโลก ส่วนผสมที่ลงตัวเหล่านี้ส่งผลให้บรรยากาศที่นี่โรแมนติกไม่แพ้ที่ใด

อ่าวมาหยา เกาะพี พี จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
                          “อ่าวมาหยา” เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน น้ำทะเลสีเขียวสดจนมองเห็นพื้นทราย ทิวทัศน์สวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีชื่อเสียงระดับโลก หลังจากถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่มี ลีโอนาโด ดิคาปริโอ รับบทนักแสดงนำ ด้วยธรรมชาติที่งดงามลงตัว รับกับความเงียบสงบ จึงเหมาะจะเป็นสถานที่เผยความในใจกับคนที่เรารักได้โรแมนติกแบบสุดๆ

ตึกเอ็มไพร์สเตท นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
                     “ตึกเอ็มไพร์สเตท” หนึ่งในอาคารระฟ้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เป็นสถานที่รวมบรรดาคู่รักหลากหลายชาติที่ขอใช้ค่ำคืน “วันแห่งความรัก” บนตึกสูงปี๊ด ประมาณว่า ยิ่งสูง ยิ่งเลิฟ ไฮไลท์ในช่วงวาเลนไทน์ที่กลายเป็นประเพณี คือ ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะมีการจัดงานแต่งงานหมู่ให้กับคู่บ่าวสาวนานาชาติกว่า 200 คู่  หากใครอยากสมหวังในความรัก ก็ถือโอกาสนี้ขอแต่งงานดู เพราะช่วงเวลาที่คนอื่นกำลังทำพิธีน่าจะเป็นช่วงเวลาที่คุณกับคู่รักกำลังอินที่สุด
  สืบค้นจาก   : http://travel.mthai.com/world-travel/12131.html

เที่ยวเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี (Munich)

Munich, Germany



               มิวนิค (Munich) เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมันนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) มิวนิคเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนีและเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป มิวนิคยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมากที่สุดของเยอรมนี

               เมืองมิวนิคเมืองน่าเที่ยวและได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตร์บารอก เมืองที่รอคอยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกลิ่นอายขนบธรรมเนียมประเพณีแบบบาวาเรียนแท้ๆ ที่เปี่ยมเสน่ห์และน่าหลงไหล





               เฟราเอ่นเคียร์ชเช่อ ( The Frauenkirche ) โบสถ์พระแม่มารีทรงหัวหอมคู่ สร้าง
ด้วยอิฐสีแดง สูง 99 เมตรนี้ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค




               มาเรียนพลาตซ์ ( Marienplatz ) เป็น หัวใจ ของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensauleรูปปั้นพระแม่มารีทองคำ ศาลาว่าการเมืองใหม่ ( Neuse Rathaus ) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่Glockenspiel หอระฆัง ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ




        สืบค้นจาก: http://mblog.manager.co.th/isanladyinter/cxMunich/